การทอผ้า

การทอผ้า   

      การทอผ้า อยู่ในวิถีคนไทย เป็นภูมิปัญญาที่ต่อยอดจากธรรมชาติ ทั้งการเลือกวัสดุ  ผลิตเส้นใยมาทำผ้า  การคิดประดิษฐ์เครื่องทอผ้า เป็นภูมิปัญญาของกลุ่มชนและแสดงเอกลักษณ์และถ่ายทอดวัฒนธรรมภูมิปัญญาในการผลิตผ้าใช้งาน ความงดงามและการสร้างสรรค์เฉพาะท้องถิ่น  



เครดิตภาพ
http://sps.lpru.ac.th/script/show_article.pl?mag_id=3&group_id=13&article_id=128


       เมื่อเห็นการแต่งกายชุดท้องถิ่นที่ดูแปลกตา  ถ้าเรียนรู้ความต่างทางวัฒนธรรม  จะทราบได้ว่า เป็นคนมาจากแหล่งกำเนิดใด  .. 
กระบวนการทอผ้า มีเรื่องราวที่น่าศึกษาดังนี้

http://student.swu.ac.th/hm471010393/culture.htm

การรณรงค์ การใชผ้าไทย "สืบสายใย ผ้าไทย อาเซียน"

กรมส่งเสริม วัฒนธรรม รณรงค์การใช้ผ้าไทยจัดรายการ “สืบสายใย...ผ้าไทย-อาเซียน” เชื่อมโยงภูมิปัญญาสมาชิกอาเซียนผ่านผืนผ้า กระตุ้นให้คนไทยนิยมสวมใส่ผ้าไทย  เป็นรายการที่ดีมาก  

โดยมีคุณเผ่าทอง ทองเจือ ซึ่งถือว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้า .. ดำเนินรายการ  

ติดตามทุกวันพฤหัสบดี เวลา ๒๐.๓๐ – ๒๑.๓๐น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เริ่มนำเสนอเป็นตอนแรกในวันพฤหัสบดีที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ 

เชื่อว่าน่าจะติดตามชมย้อนหลังได้ สำหรับผู้ชมที่เสียโอกาสไป 
http://www.culture.go.th/thai/index.php?option=com_content&view=article&id=3200:2015-05-25-09-33-51&catid=34:news&Itemid=351

กระบวนการทอผ้า

กระบวนการทอผ้า
ในการทอผ้าพื้นเมืองของไทยนั้น กว่าจะเป็นผืนผ้าจะต้องผ่านกระบวนการ หลายขั้นตอนด้วยกัน เริ่มจากวัตถุดิบที่ใช้ในการทอ ส่วนใหญ่จะมาจาก ฝ้ายและไหม

ฝ้าย
 เป็นพืชที่ชาวบ้านปลูกไปพร้อม ๆ กับการปลูกข้าว ใช้เวลาประมาณ 6 - 7 เดือน จึงเริ่มเก็บดอกฝ้ายมาผึ่งให้แห้ง นำมาผ่านกระบวนการต่างๆ คือ อิ้ว ดีด ล้อ เข็น ทำเข็ดทำไจ ก่อนที่จะย้อมสีจะต้องฆ่าฝ้ายเสียก่อน โดยการนำไจฝ้ายไปแช่ ในน้ำข้าวจ้าวที่นึ่งสุก แล้วนำมาตีด้วยท่อนไม้ให้น้ำข้าวเข้าไปผสมกับเส้นด้ายก่อนจึง นำไปตากแห้ง เพื่อให้เส้นด้ายคงทน เมื่อย้อมสีเสร็จก็นำเส้นฝ้ายไปเข้าเครื่องมือหมุนที่เรียกว่า กวัก เพื่อปั่นด้ายให้เรียบเสมอและแน่นยิ่งขึ้น จึงนำไปค้นหรือสืบหลักค้น หรือที่ขึงด้ายก่อนนำไปเข้าเครื่องทอที่เรียกว่า กี่หรือหูก เพื่อทอให้เป็นผืนผ้าต่อไป




ส่วน ผ้าไหม ได้จากตัวไหมโดยนำรังไหมที่ผึ่งแดดแล้ว มาต้มในน้ำร้อนแล้วสาวขึ้นมาทำเป็นไจไหม จากนั้นนำมาฟอกให้เส้นนิ่ม ตากแห้ง แล้วนำมากวักเพื่อให้เส้นใยไหมติดต่อเป็นเส้นเดียวกันตลอด ย้อมสีแล้วจึงนำไปทอเป็นผืนผ้าใน การย้อมสี นั้น ในอดีตนิยมย้อมด้วยสีที่ได้ จากวัสดุธรรมชาติ โดยสกัดมาจากส่วนต่าง ๆ ของพืชที่มี อยู่ในท้องถิ่น เช่น เปลือกของลำต้น แก่น ราก ลูก ผล ดอก ใบ พืชที่ใช้ย้อม เช่น ครั่ง คราม ลูกหว้า ใบหูกวาง แถลง หรือจากสัตว์บางชนิด ปัจจุบันมีการนำสีวิทยาศาสตร์หรือสีเคมีมาใช้ในการย้อมมากขึ้นเนื่องจากราคาไม่แพง หา ได้ง่าย ใช้สะดวก และควบคุมน้ำหนักของสีได้ง่ายกว่า สำหรับ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทอผ้าประกอบด้วยส่วนสำคัญ คือ กี่หรือหูก ฟันหวี ตะกอหรือเขากระสวย และเขาหูก


คุณลักษณะพิเศษของผ้าไทย

คุณลักษณะพิเศษของผ้าไทย…….

เอกลักษณ์ของชาติไทย จะถูกถ่ายทอดให้ปรากฏเป็นลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายไทย ดอกไม้รูปทรงเรขาคณิต รูปสัตว์ สัญลักษณ์ประจำท้องถิ่น เป็นต้น ลงบนผืนผ้า โดยฝีมือและภูมิปัญญาของชาวบ้าน ลวดลายดังกล่าวละเอียดอ่อน สวยงาม อ่อนช้อย ผู้สวมใส่รู้สึกสบาย สง่างาม มีเสน่ห์ ปัจจัยสำคัญอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ผ้าไทยได้รับความนิยมคือ คุณสมบัติพิเศษเฉพาะของเส้นใยแต่ละชนิดที่ใช้ทอผ้าดังต่อไปนี้


ผ้าไหม
 ทำจากเส้นใยธรรมชาติที่ได้จากสัตว์จำพวกหนอนไหมโดยคายเส้นใยออกมาทางปากมีความยาวต่อเนื่อง เมื่อนำมาทอเป็นผืนผ้าทำให้อ่อนนุ่ม เป็นมัน เหนียว ยืดหยุ่นตัวดี ดูดซับความชื้น ย้อมสีง่ายและสวมใส่สบายเนื่องจากมีความชื้นในตัวเอง (Moisture Regain) สูงประมาณร้อยละ 11 แต่มีข้อจำกัดคือเส้นใยไหมเสื่อมคุณภาพง่าย เมื่อถูกความร้อนสูงจากเตารีด แสงแดด แมลงชอบกัดกินเส้นไหมเพราะเป็นเส้นใยโปรตีน สีที่ย้อมจะเสื่อมคุณภาพเมื่อถูกความชื้นมากเกินไป ดังนั้นควรเก็บรักษาไว้ในที่แห้ง


ผ้าฝ้าย
 ทำจากเส้นใยธรรมชาติที่ได้จากดอกของต้นฝ้าย เมื่อนำมาทอผ้าจะดูดซับความชื้นได้ดี ย้อมสีและพิมพ์ลวดลายง่าย สวมใส่สบายมีความชื้นประมาณร้อยละ 11 ระบายความร้อนได้ดี ผ้าฝ้ายที่ผ่านการตกแต่งด้วยเทคนิควิธีการผ่านไอน้ำหรือให้ความร้อน และใช้สารเคมีทำให้ผิวสัมผัส ราบเรียบ เป็นมัน คงทนต่อการเสียดสี ทนยับ แต่ถ้าไม่ได้ผ่านการตกแต่งส่งผลให้การยืดหยุ่นตัวน้อยลง ยับง่าย ความแข็งแรงหรือความเหนียวต่ำ ไม่ทนเชื้อราและแสงแดด ข้อจำกัดของผ้าฝ้ายจะเสื่อมคุณภาพง่าย เมื่อถูกความร้อนสูงจากเตารีด หรือแสงแดด ทำให้สีที่ย้อมจางลง ควรเก็บรักษาในที่แห้งไม่ควรให้มีความชื้นซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อราบนผืนผ้า


ผ้าลินิน
 (Linen) ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้เป็นผ้าที่ทำจากลำต้นแฟลกซ์ (Flax) ดังนั้นจึงมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปอยู่ในรูปของเส้นใยมักเรียกว่าใยแฟลกซ์ เส้นด้ายเรียกว่า ด้ายแฟลกซ์ ส่วนผ้าต้องเรียกว่าลินินจึงจะถูกต้อง คุณลักษณะพิเศษของผ้าชนิดนี้ทำให้สวมใส่สบายเนื่องจากมีความชื้นสูงประมาณร้อยละ 11-12 เหนียว ระบายความร้อนได้ดี ย้อมสีติดง่าย แต่มีข้อจำกัดคือยับง่าย ความยืดหยุ่นตัวน้อย เส้นใยแข็งกระด้าง


ผ้าไหมเทียม
 ส่วนใหญ่ทำจากเส้นใยคิวปราโมเนียมเรยอน (Cuprammonium Rayon) ถูกจัดให้อยู่ในประเภทเส้นใยกึ่งสังเคราะห์รีเจนเนอเรตเตดเซลลูโลส (Regenerated Cellulose) มีคุณสมบัติคล้ายเส้นใยไหมมากที่สุด จังมักเรียกกันว่าไหมเทียม ความเหนียวสูงมากเมื่อเส้นใยแห้งสนิท และความเหนียวจะลดลงเมื่อเปียกน้ำ ดูดซับความชื้นได้ดี เงางาม ย้อมสีและทำลวดลายได้ง่ายความชื้นในตัวสูงถึงร้อยละ 13 สวมใส่สบาย ยืดหยุ่นตัวดี ทนด่าง แต่มีข้อจำกัดคือเมื่อถูกรังสีความร้อนจากแสงแดดหรือเตารีดความเหนียวจะลดลง เกิดเชื้อราง่ายเมื่อเปียกน้ำ ควรเก็บรักษาในที่แห้ง


ที่มา https://sites.google.com/site/phathiy/home
ผ้าไทย คือ ผ้าทอมือที่มีการผลิตในประเทศไทย โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่น ประวัติผ้าไทยไม่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากนัก เนื่องจากมีการให้ความสำคัญในด้านอื่นๆ มากกว่า แต่เราพอจะสืบหาประวัติของผ้าไทยในสมัยก่อนได้บ้างจากวรรณคดี จิตรกรรมฝาผนัง และมรดกศิลปะที่คงเหลืออยู่ในบางท้องถิ่น (วิกิพีเดีย)
          ศิลปะการทอผ้าพื้นเมืองของไทยในปัจจุบัน 
http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=21&chap=3&page=t21-3-infodetail03.html

ที่มา สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน